เทรนเนอร์หนุ่ม โดนวางยา เคราะห์ดีเอากลับมากินบ้าน หลับไป 2 วัน

เทรนเนอร์หนุ่ม โดนวางยา เคราะห์ดีเอากลับมากินบ้าน หลับไป 2 วัน

เตือนภัยเทรนเนอร์โดนวางยา ลูกค้าเกย์วัย 50 วางยาในน้ำดื่ม เทรนทั้งหมด 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกไม่มีปัญหาอะไร เที่ยวสุดท้ายให้ไปสอนถึงบ้าน โชคดีไหวตัวทันแกล้งทำเป็นยกดื่ม แต่จริงๆ เอากลับมากินที่บ้าน หลับไป 2 วัน ต้องหามส่งโรงพยาบาล

เรื่องราวเตือนภัยซึ่งผู้โพสต์มีการติดแฮชปท็ก #เตือนภัยเทรนเนอร์โดนวางยา 

เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ซึ่งเจ้าของโพสต์มีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ ผู้ที่มีความรู้ด้านฟิตเนส ทำหน้าที่เทรนการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีให้กับผู้คนที่สนใจ โดยได้นำเนื้อหามาเปิดเผยผ่านสื่ออโซเชียลมีเดียวของตัวเองไว้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ระบุข้อความ ดังนี้

“โพสนี้จะสรุปเรื่องโดนวางยานะครับ #เตือนภัยเทรนเนอร์โดนวางยา มีคนติดต่อเทรนเข้ามาใหม่ ย่านพุทธบูชา ซึ่งเทรนกันทั้งหมด 3 ครั้ง / 2 ครั้งแรกเทรนที่ฟิตเนสของโรงแรมย่านสีลม ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมค่อนข้างเซฟตัวเองไม่ดื่นน้ำที่ลูกค้าให้บวกกับลูกค้าอายุ 50 กว่าแล้วไม่น่าจะทำอะไรเราได้นอกจากการวางยา คือ 50 กว่าแบบไม่ดูแลตัวเอง แรงน้อยๆ ไม่ใช่ 50 กว่าแบบออกกำลังกาย พอนึกภาพออกไหม สภาพความแข็งแรงมันจะต่างกันมาก”

“ล่าสุดเทรนกันครั้งที่ 3 (ต้องบอกก่อนว่าปกติผมคิดเป็นคอร์ส 10 ครั้งขึ้นไป แต่ลูกค้าใหม่สามารถเทรนเป็นรายครั้งได้ 3 ครั้ง คือจ่ายเงินเป็นรายครั้งก่อน คิดว่าเทรนโอเครค่อยซื้อเป็นคอร์ส) เขาคงคิดว่ามีโอกาสครั้งสุดท้ายจะเอาให้ได้ เพราะนอกสถานที่แบบนี้ เดินทางไกลจากย่านลาดพร้าวไปพุทธบูชา ผมจะคิดค่าน้ำมัน 1,000 บาท ค่าเทรน ชม. 2,000 บาท เทรนได้ถึง 2 ชม. สรุปยอดเทรนแล้วตกครั้งละ 3,000 บาท”

“พอไปถึงเขาก็วางขวดน้ำผลไม้ไว้ให้ผมดื่ม ซึ่งผมก็เห็นว่ามันมีพลาสติกครอบฝาอยู่ แต่มันดูไม่ค่อยสมบูรณ์ พอแกะพลาสติกออก แล้วบิดฝามันไม่มีเสียงแก๊กจากการเปิดฝา ทำให้ผมไม่กล้ากิน แค่ทำเป็นยกดื่ม พอหลังเทรนเสร็จผมก็ได้หยิบน้ำติดมือมาด้วย”

“ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจากพฤติกรรมต่างๆ ที่รู้สึกว่าคนเทรนคนนี้แปลกๆ กลับถึงบ้านผมเลยลองดื่มดู ดื่มไปแค่ครึ่งขวด ผ่านไป 15 นาทีอาการเหมือนคนเมา โลกส่ายไปมา พอก้มตัวก็ล้มฟุบไปเลยเหมือนคนเมาลุกไม่ไหว แล้วได้ไลน์หาแฟนว่าโดนวางยาแล้วเราก็เผลอหลับคามือถือไปโดยที่ไม่รู้ตัวอีกเลย คิดว่าตัวเองแข็งแรงนะ แต่เจอแบบนี้ไป หลับไป 2 วันติดเลย(24 ชม.) หมอยังบอกน่าจะโดนหนักปกติ 2-3 ชม. ก็ฟื้น แนะนำให้ไปโรงบาลตำรวจเพื่อตรวจหาสารในเลือด”

“ปกติบ้านลูกค้าที่เรียกไปเทรนถึงในบ้าน บ้านจะหลังค่อนข้างใหญ่มากๆ และมีห้องฟิตเนสเฉพาะ แต่บ้านลูกค้าคนนี้หลังเล็กๆ แถมการแต่งตัวก็ไม่ค่อยเหมาะสม เราเลยสงสัยไว้ก่อนและระวังตัวเป็นพิเศษ คือไม่ได้เหยีดนะครับ ปกติถ้าบ้านหลังเล็กเขาจะออกที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ไม่ใช่มาออกในบ้านแบบนี้ หลายๆอย่างมันน่าสงสัยมาก เลยระวังตัวเป็นพิเศษ”

“ผมคิดเสมอว่าผู้ชายอย่างเรายังรู้สึกกลัวพวกโรคจิตเลย แล้วนับภาษาอะไรกับผู้หญิง เลยอยากให้ระวังทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยส่วนตัวผมเจอพวกโรคจิตก็เยอะ พวกรับเลี้ยงเสนอเงินเป็นแสนๆก็มี พวกนั้นยังโอเครกว่าที่พูดตรงๆ ไม่ใช่โรคจิตที่มาวางยาคนอื่นแบบนี้ แต่บอกก่อนผมไม่เคยรับนะ ไม่ต้องติดต่อมา”

เปิดสาเหตุ อดีตคนไข้ถือไม้ไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถึงห้องฉุกเฉิน

อดีตคนไข้ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาล โกรธแค้นตอนมาบำบัดยาเสพติด ถือไม้ไล่ฟาดเจ้าหน้าที่ถึงห้องฉุกเฉิน คลิปว่อนโซเชียล ล่าสุดจับตัวได้แล้ว เรื่องราวอดีตคนไข้ฝังใจ โกรธแค้นเจ้าหน้าที่โรงพยาาบลแห่งหนึ่ง เมื่อครั้งที่ตนเองเคยมาเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ก่อนก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ เรื่องราวดังกล่าวบอกเล่าโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งลงโพสต์ไว้วานนี้ (4 เม.ย.65) พร้อมกับอธิบายเหตุการณืที่เกิดขึ้นจนเป้นคลิปว่อนโลกออนไลน์

“1 เมษายน 2565 วันข้าราชการพลเรือน สิ่งที่ต้องทำคือหน้าที่ สิ่งต้องมีคือความอดทน 10 ปีที่โลดแล่นในวงการสาธารณสุข ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ไม่คิดว่าเรื่องเแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองและในหน่วยงานที่ตัวเองสังกัด โรงพยาบาลคือสถานที่ที่ปลอดภัย ที่หลายคนเข้ามาจะได้รับการดูเเลแบบองค์รวม บนพื้นฐานของการให้บริการด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ เพื่อให้รอดพ้นภาวะวิกฤตที่คุกคามต่อชีวิต”

“เราพยายามทำงานหนักเพื่อที่จะถือประโยชน์และสิทธิของผู้รับบริการเป็นที่ตั้ง หลายครั้งผู้รับบริการไม่ได้เข้าใจ เเต่เราก็ยังยืนยันที่จะดำรงไว้ซึ่งประโยชน์ของผู้รับบริการเป็นหลัก ถึงเราจะทุกข์ที่สุด แต่ก็ยังเป็นคนที่มี ‘สุข’ ที่สุดที่ได้เห็นผู้รับบริการได้รับการพยาบาลที่ถูกต้องและเหมาะสม ตามมาตรฐานวิชาชีพ”

“แต่เหตุการณ์วันนี้ เราหลายๆ คนกำลังโดนคุกคาม จากภายนอกและคนไข้ที่เรากำลังให้บริการ ไม่ว่าจะเรื่องการแสดงอารมณ์หงุดหงิดใส่ ชักสีหน้า คำพูดจา แค่นี้ก็ถือว่าไม่ดีแล้ว แต่นี่ถึงกับบุกมาในสถานที่ราชการ ทำร้ายร่างกายกัน มันเห็นใจกันไม่ได้ เราก็ต้องปกป้องสิทธิตัวเอง ตัวเองไม่สบายมาขอความช่วยเหลือ แล้วยังมาทำร้ายเรา เรื่องแบบนี้มันยอมความไม่ได้ ขอดำเนินคดีให้ที่สุด”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป